LUCKY SE7EN: นัดที่ 7 เผด็จศึก

“LUCKY SE7EN: นัดที่ 7 เผด็จศึก” My heavenly Russian roulette always hit in the seventh shot เล่าเรื่องราวของ ‘โจ’ มือปืนในองค์กรลับแห่งเมือง​แบงแบงค็อก ผู้ครองตำแหน่ง ‘No. 7’ จากการเป็นนักฆ่าดวงดีที่คร่าชีวิตผู้คนได้ทุกครั้งหลังประลอง Russian Roulette เกมแห่งโชคชะตาที่เดิมพันชีวิตกับกระสุนเพียงนัดเดียวที่ใส่ในลูกโม่ แต่วันหนึ่งความ ‘เฮง’ ของเขากลับหายไป เหลือแต่ความ ‘ซวย’ ที่ประดังเข้ามาพร้อมกับเรื่องวุ่นๆ ภายในองค์กร

สำหรับผลงานลำดับที่ 5 ของกลุ่ม Too Long Theatre เรื่องนี้ชวนให้นึกย้อนถึงผลงานลำดับที่ 3 “Cyberpunk TH 2020” เมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งเล่าถึงเรื่องราวที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตเมื่อประเทศไทยถูกครอบงำด้วยเทคโนโลยี ในขณะที่ “LUCKY SE7EN” ผลงานเขียนบทและกำกับของธนวิชญ์ ทองพรหม สะท้อนถึงสังคมแห่งความเชื่อซึ่งทุกคนต้องพึ่งพา ‘โชค’ คล้ายยุคปัจจุบัน จนอดไม่ได้ที่จะตั้งคำถามว่าคนเรามีเจตจำนงเสรีที่สามารถกำหนดชีวิตตัวเองได้จริงหรือไม่ หรือต้องเดินไปตามเส้นทางที่เบื้องบน(?)กำหนดไว้เท่านั้น และจะเป็นอย่างไรถ้าเราขัดขืนขึ้นมา

สิ่งที่ทำให้สนุกกับการดูละครเวทีเรื่องนี้คือการผสมผสานเทคนิคการเล่าเรื่องที่หลากหลาย ฟีลคล้ายกับกำลังดูหนังตัดต่อฉึบฉับชวนลุ้น เช่น การแฟลชแบ็กเล่าถึงจุดหักเหที่ทำให้โจ นักพนัน กลายมาเป็นนักฆ่า (ชอบจังหวะนี้มาก) หรือฉากที่ 3 นักฆ่าในองค์กรต้องมาห้ำหั่นกันเองด้วยการเอาปืนจ่อแต่ละฝ่าย แล้วมีการปิดไฟให้นักแสดงสลับมุมกันจนครบทุกมุม (นึกภาพมีมสไปเดอร์แมน/Taylor 3 คนกำลังยืนชี้หน้ากัน) การใช้จอแนวตั้งวางขนานกัน 2 จอก็ทำให้ได้ภาพที่แปลกตาออกไป บางครั้งจอก็เป็นหน้าต่างห้อง บางทีก็เป็นหน้าจอแชตกรุ๊ปไลน์พีคๆ บนมือถือ หรือเป็นตึกแถวที่ ‘No. 7’ ต้องไปปฏิบัติภารกิจ ซึ่งการออกแบบท่าทางของกวิน พิชิตกุล ก็ช่วยเพิ่มเสน่ห์และความฮาให้กับการเดิน วิ่ง กลิ้งได้เป็นอย่างดี

ละครเรื่องนี้มีนักแสดงทั้งหมด 4 คน และผู้แบกการแสดงแบบแทบจะยืนหนึ่งตลอด 1 ชั่วโมง 50 นาทีคงหนีไม่พ้นรัฐกร พันธรักษ์ ผู้รับบท No. 7 ซึ่งทำให้ตัวละครนี้ดูเป็นคนเท่ๆ คูลๆ จังหวะคล้ายกับสมพักตร์ อุณฑพันธุ์ ที่รับบท ‘No. 2’ เลขาฯ สาวผู้เป็นสื่อกลางกับบอสใหญ่ สำหรับสายฟ้า​ ตัน​ธนา ยังคงรับบทหลากหลายได้เป็นอย่างดี ทั้งสารพัดเฮียที่ต้องใช้ปืนวัดดวงกับโจแล้ว ยังสวมบท ‘No. 6’ ผู้หนังเหนียวแสนศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีฉากชวนซึ้งด้วยเช่นกัน ในขณะที่ปานมาศ ทองปาน (ล่าสุดเพิ่งกำกับมิวสิคัลอิงประวัติศาสตร์เรื่อง “Dilok Von Siam 2023”) ผู้รับบทมาดามซินแส ‘No. 3’ ก็ถือเป็น MVP ที่ทรงพลังของเรื่องและชวนให้ติดตามทุกครั้งที่เข้าฉาก (และสะบัดพัด) ส่วนตัวละครลับอย่าง ‘No.1’ ก็เปิดตัวได้อลังการมากๆ แต่เล่นแข็งและนิ่งเกินไปหน่อย (หรือเราเข้าไม่ถึงเอง)

อีกจุดที่อยากชมคือคำบรรยายภาษาอังกฤษ (Surtitle) ก็แปลได้ดีเลยทีเดียว จังหวะมุกที่ประทับใจคือตอนเล่น ‘ร้อยเอ็ด’ กับ ‘101 Dalmatians’ และน่าสนใจดีที่แปลตอนตัวละครพูดถึง “คนเบื้องบน” ช่วงต้นเรื่องว่า “priviledge people” แต่ตัวอักษรค่อนข้างเล็ก แถมยังอยู่มุมบนของจอด้านซ้าย ซึ่งถ้าช่วงไหนแสงไฟส่องแถวนั้นก็คือมองไม่เห็นอะไรเลยจ้า และจังหวะกดเซอร์ไตเติ้ลยังไม่ค่อยสมูทเท่าไรในรอบที่ไปดู

“LUCKY SE7EN: นัดที่ 7 เผด็จศึก” เปิดแสดงเวลา 19.30 น. เฉพาะวันศุกร์และเสาร์ ระหว่างวันที่ 7 – 29 กรกฎาคมนี้ ที่โรงละคร People of Ari 

(ถ่ายภาพโดย จิร อังศุธรรมทัต)