The Forest ป่า (2016)

Photo: www.facebook.com/theforestthefilm
Photo: www.facebook.com/theforestthefilm

 

 

The Forest ป่า (2016)
กำกับโดย Paul Spurrier

 

“The Forest (ป่า)” เป็นหนังผีที่แหวกขนบหนังผีแบบไทยๆ หลายแง่มุม ซึ่งเล่าผ่านมุมมองของผู้กำกับชาวอังกฤษ พอล สเปอร์เรียร์ (Paul Spurrier) ที่อยู่ในไทยมากว่า 10 ปี โดยหนังได้ติดตามชายหนุ่มที่เพิ่งออกจากร่มกาสาวพัสตร์มาเป็นครูยังภาคอีสาน ดินแดนที่มีเรื่องเล่าถึงผีและวิญญาณมากมาย ซึ่งหนึ่งในลูกศิษย์เป็นเด็กหญิงที่ไม่ยอมพูดกับใคร และมักถูกเพื่อนร่วมชั้นรังแก จนทำให้ครูมือใหม่ต้องยื่นมือเข้าช่วย

 

หนังเล่าถึงขั้วที่แตกต่างโดยใช้ครูหนุ่มและเด็กหญิงเป็นตัวเปรียบเทียบ แม้ว่าทั้งคู่ต้องเผชิญเรื่องราวร้ายๆ ที่มาพิสูจน์ความอดทนเช่นกัน แต่ครูหนุ่มก็พยายามปรับตัวเข้าหาโลกความเป็นจริงหลังจากที่ใช้ชีวิตในโลกอุดมคติมานาน ในขณะที่เด็กหญิงพยายามหลีกหนีจากความจริงอันโหดร้ายเข้าสู่โลกแห่งจินตนาการในป่า โดยมีเด็กหนุ่มลึกลับเป็นเพื่อน

 

ประเด็นน่าสนใจสะท้อนผ่านหนังเรื่องนี้ ทั้งการปะทะกันของความจริงกับจินตนาการ การต่อสู้เพื่ออุดมการณ์กับการใช้อำนาจอย่างไร้เหตุผล บทบาทหน้าที่ซึ่งสังคมกำหนดกับความต้องการที่แท้จริงของแต่ละคน ความอัปลักษณ์ของภูติผีกับจิตใจที่ดำทมิฬของมนุษย์ การอยู่รอดของคนชายขอบ ความรัก ความตาย ความเศร้า และการยึดติด แต่ทั้งหมดนี้อยู่รวมกันอย่างปนเปและบางครั้งไม่มีการสานต่อ จนทำให้บางประเด็นสื่อสารได้ไม่คมเท่าที่ควร

 

Photo: www.facebook.com/theforestthefilm
Photo: www.facebook.com/theforestthefilm

 

จุดเด่นของ “ป่า” คงหนีไม่พ้นงานด้านภาพซึ่งขับเน้นความแปลก exotic ได้เป็นอย่างดี หลายฉากสวยงามและมีพลังเชิงศิลปะ แต่หลายฉากก็ดิบและโหดอย่างไม่ปรานีผู้ชมขวัญอ่อน ซึ่งพอรวมกับเสียงดนตรีประกอบเร้าอารมณ์หลายๆ ครั้งแล้วทำให้รู้สึกว่าเน้นสไตล์ ขายความหวือหวามากเกินไป จนกลบประเด็นที่ต้องการสื่อสารไปอย่างน่าเสียดาย

 

การนำเสนอบทบาทของพุทธศาสนาในสังคมไทยของหนังทำได้น่าสนใจ ทั้งความเชื่อเรื่องเวรกรรม บาปบุญคุณโทษ เวลาเกิดเรื่องร้ายขึ้นก็โทษว่าเป็นกรรมเก่าและยอมรับชะตาชีวิตแบบนั้นไป ซึ่งน่าสนใจว่าทั้งเรื่องไม่เห็นพระเลยสักรูป หรือแม้แต่ภาพคนทำบุญ มีแต่ภาพครูหนุ่มที่เพิ่งสึกมานั่งกราบไหว้พระพุทธรูปในวัดอยู่คนเดียว แต่บางประเด็นก็ทำให้ตะขิดตะขวงใจในความแปร่งของภาษา รวมถึงบริบทของคนนับถือพุทธศาสนาที่ไม่น่าจะพูดขอพรพระแบบที่ปรากฏในเรื่อง

 

โดยรวมคิดว่า “ป่า” เป็นหนังอีกเรื่องที่น่าสนใจ แม้ไม่กลมกล่อมเท่าที่ควรด้วยการละเลยบางประเด็นไว้กลางทาง และงานด้านภาพที่จัดจ้านจนเกินไปในบางครั้ง แต่ความแปลกของหนังก็เป็นจุดเด่นที่ชวนให้ติดตามไปเรื่อยๆ รวมถึงนักแสดงรุ่นเยาว์ทั้งสองที่มีเสน่ห์ด้วยความเป็นธรรมชาติและไม่ธรรมชาติในคราวเดียว ซึ่งหนังเรื่องนี้เคยได้ฉายในเทศกาลต่างแดนมาหลายที่ เช่น อูดีน ฟาร์ อีสต์ (Udine Far East) ที่อิตาลี และซิเนเควสต์ (Cinequest) ที่อเมริกา

 

“ป่า” เข้าฉายตั้งแต่วันที่ 15 กันยายนนี้ เฉพาะที่ SFW เซ็นทรัลเวิลด์ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/theforestthefilm

 

แก้วตา
13.09.16
Photo: www.facebook.com/theforestthefilm
Photo: www.facebook.com/theforestthefilm

 

 

 

TRAILER: