เพื่อใคร


“แอนเรียนหนังสือไปเพื่ออะไร”

เพื่อนคนหนึ่งถามขึ้นขณะนั่งอยู่ในโรงอาหารหลังสอบเสร็จวันท้ายๆ ในชีวิต ม.ปลาย

“เพื่อตัวเอง”

คือคำตอบของฉันในวันนั้น และสิ่งที่พูดไปก็ยังคงวนเวียนมาตอบคำถามตัวเองได้ทุกครั้งว่าทุกวันนี้มีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร

ความคิดแบบนี้อาจดูเป็นปัจเจก หรือบางครั้งก็อาจเห็นแก่ตัว แต่สุดท้ายคนเราถ้าไม่นึกถึงตัวเองแล้วจะไปนึกถึงคนอื่นหรือทำเพื่อคนอื่นให้ดีได้ยังไง อย่างน้อยก็เราคนหนึ่งแหละที่ไม่เชื่อแบบนั้น เพราะสิ่งที่เราทำย่อมส่งผลต่อตัวเราเอง

ถ้าเราอยากทำอะไรเพื่อใครสักคน เหตุผลง่ายๆ ก็เพราะเรามีความสุขที่ได้ทำสิ่งนั้น และก็ไม่ได้หวังผลตอบแทนอะไร นอกจากหวังให้อีกฝ่ายได้ประโยชน์จากสิ่งที่เราทำ แต่ไม่ใช่ทุกครั้งที่ทำได้แบบนั้น เพราะบางครั้งก็หวังได้อะไรตอบแทนบ้าง หรือบางทีก็เลือกที่จะไม่ทำซะงั้น เพราะไม่อยากไปข้องเกี่ยวกับเรื่องที่จะทำให้รู้สึกไม่ดี แต่ไม่ว่าจะทำหรือไม่ทำอะไร เราก็ไม่คิดจะเอาใครหรือสิ่งใดมาเป็นข้ออ้างในการกระทำของตัวเอง เราทำอะไร เพื่อใคร เรารู้ดีอยู่แก่ใจ และก็หวังลึกๆ ว่าถ้าคนอื่นพยายามเลิกนำเรื่องอื่นมาอ้างเป็นเหตุผลเวลาตัวเองทำอะไรได้บ้างก็คงจะดี ถ้าอยากทำดีให้ใคร ก็ทำไปเพราะอยากทำจริงๆ ไม่ใช่หวังฉกฉวยโอกาส ทั้งที่เจตนาทำเพื่อตัวเองก็แจ่มแจ้งซะขนาดนั้น

การทำเพื่อตัวเองบางครั้งก็ทำให้ดิ่งลงเหวได้เหมือนกัน อย่างวันนี้รู้สึกผิดหวังกับตัวเองมากทีเดียว ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่างทั้งความประมาท ความขี้เกียจ การจัดการเวลาไม่ดี เลยทำให้ผิดในเรื่องที่ไม่ควรพลาด ซึ่งอาจทำให้ต้องเสียเวลา เสียเงิน เสียความมั่นใจ เสียความเชื่อใจ ฯลฯ เรื่องนี้คงไม่เกิดขึ้นถ้าหากตั้งใจตั้งแต่แรก เพราะเราคงทำได้ดีกว่านี้

แต่ก็นั่นแหละ การทำเพื่อตัวเองก็ทำให้ได้รู้จักมนุษย์ประหลาดที่อยู่กับเรามาตั้งแต่เกิดมากขึ้น และได้เรียนรู้ที่จะประนีประนอมกับชีวิตจริง พอเจอเรื่องผิดหวัง เรื่องเศร้า เรื่องงี่เง่าที่ไม่ได้ดั่งหวัง ก็พยายามทำใจและทำความเข้าใจว่าเกิดจากอะไร แล้วบอกกับตัวเองว่าจะไม่พลาดซ้ำรอยเดิมอีกรอบ

ชีวิตที่เรียบง่ายเกินไปก็คงไม่สนุกเนอะ 😉

นี่ก็แค่เขียนให้ตัวเองดูดี และขอสัญญากับตัวเอง(ให้คนอื่นรู้)ว่าจะไม่พลาดแบบวันนี้อีกแล้วนะ แก้วตา!

แก้วตา

25.10.16