ความจริง … ลบเลือน … หลงลืม
คงเป็นความบังเอิญที่ทำให้ฉันได้เจอเธอในวันนี้
การได้พบกันแบบไม่ทันตั้งตัวทำให้ฉันรู้สึกกระอักกระอ่วน แค่เห็นเธอเดินผ่านประตูเข้ามา สมองก็หวนนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา คำพูดของเธอ คำพูดของฉัน บางสิ่งที่ฉันเพิ่งทำให้ไปโดยที่เธออาจไม่รู้ตัว
ร่างกายเหมือนถูกสะกดให้กลายเป็นหิน ไม่รู้ต้องทำตัวยังไง มองหน้าเธอดีมั้ย มองตาเธอได้มั้ย แล้วจะต้องพูดอะไรที่ดูไม่มากหรือน้อยจนเกินไป ทางออกที่พอคิดได้คือการปิดปากเงียบ งุดหัวจ้องจอโทรศัพท์เหมือนกับว่าไม่เคยเห็นมาก่อน ในขณะที่เสียงอันคุ้นเคยของเธอยังดังวนเวียนอยู่ไม่ห่าง
อาจเป็นเพราะความบังเอิญ หรือเพราะบรรยากาศรอบตัวที่ทำให้ความอึดอัดพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายขาก็พาฉันออกจากที่นั่นมายังสนามหลวง เดินอยู่คนเดียวเรื่อยเปื่อยท่ามกลางผู้คนแปลกหน้าในความมืดมิดของค่ำคืนที่มีเพียงแสงไฟประดิษฐ์คอยเคียงข้าง
แปลกดีที่ฉันนึกถึงเธออีกแล้ว และก็คงแปลกยิ่งกว่าที่ไม่เคยโกรธหรือเกลียดเธอเลย ยังคงยินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้นเสมอ ซึ่งทำให้ฉันได้เรียนรู้ที่จะยอมรับความจริงอีกครั้ง
การมีความรู้สึกนึกคิดไม่ตรงกันไม่ได้หมายความว่าต้องเกลียดกัน สิ่งที่เธอคิดไม่ใช่เรื่องผิด สิ่งที่ฉันรู้สึกไม่ใช่ความผิด แค่ได้เปิดใจคุยกัน แลกเปลี่ยนสิ่งที่คิดหรือเรื่องราวที่เกิดขึ้นก็ช่วยเปิดโลกทัศน์ได้ไม่น้อย
คงเป็นเรื่องดีที่ฉันไม่กลัวการเผชิญหน้ากับความจริง เพราะไม่ว่าจะช้าหรือเร็วความจริงก็ต้องปรากฎ และยังโชคดีที่ฉันกับเธอต่างก็ซื่อสัตย์กับความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง
ฉันไม่จำเป็นต้องลบเลือนหรือหลงลืมสิ่งที่เกิดขึ้น การเรียนรู้และยอมรับความจริงจะช่วยให้เยียวยาและจัดการตัวเองได้ดีขึ้น จนกว่าจะถึงวันที่กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง และในวันนั้นฉันจะเข้าไปทักทายเธอก่อนด้วยรอยยิ้มเหมือนเดิม ฉันกับเธอจะได้พูดคุย ถกเถียง สารพัดเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้อย่างสบายใจ
หากไม่เรียนรู้และทำความเข้าใจกับความจริงที่เกิดขึ้นในอดีต ก็ไม่แน่ใจว่าจะก้าวจากปัจจุบันไปยังอนาคตอย่างแข็งแรงได้ยังไง เพราะก็คงเดินวนเวียนย่ำซ้ำรอยเดิมไปอย่างไร้ทิศทาง ไม่ได้แก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาด
แต่นี่ก็เป็นเพียงเรื่องของฉันและเธอ กับสิ่งที่ฉันได้เรียนรู้และเติบโตภายในระยะเวลาไม่กี่เดือน
… แล้วพวกเขาเคยเรียนรู้อะไรบ้างมั้ยตลอด 40 ปีที่ผ่านมา
แก้วตา
06.10.16