A Street Cat Named Bob (2016)

A Street Cat Named Bob (2016)

 

A Street Cat Named Bob (2016)
Directed by Roger Spottiswoode

 

เรื่องย่อ:
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อหนุ่มจรจัดผู้พยายามเลิกยาเสพติดโคจรมาพบกับแมวจรจัดสีส้มสุดเชื่อง สร้างจากเรื่องจริงของ เจมส์ โบเวน (James Bowen) และ บ๊อบ แมวเหมียวที่มารับบทเป็นตัวเองในหนังเรื่องนี้ด้วย

 

แก้วตาให้: ★★★☆☆

  1. A Street Cat Named Bob” เป็นหนังฟีลกู้ด แต่ก็ไม่ได้ใสแบ๊ว ขายแต่ความน่ารักของแมวเพียงอย่างเดียว แต่แฝงความดาร์กลงไปด้วยด้วยความที่อิงกับชีวิตจริงของ เจมส์ โบเวน อดีตคนจรจัดที่พยายามไม่หวนกลับไปเสพย์ยาอีก
  1. ถ้าไม่มีบ๊อบนี่หนังจะจืดมากเลยนะ เพราะก็เหลือแค่ความดราม่ากิงก่องแก้วธรรมดาเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน ดึงดูดมากมาย พล็อตเรื่องก็เดาได้ตั้งแต่ต้นจนจบ
  1. แต่เอาเข้าจริง ชีวิตคนก็ไม่ต้องดราม่ามากก็ได้ปะ แค่ชีวิตเราๆ เจอดราม่านิดหน่อยก็ปวดหัวจะแย่แล้ว แต่ตาคุณเจมส์นี่เจอสารพัดปัญหาชีวิต ครอบครัวแตกแยก ตัวเองแก้ปัญหาด้วยการเสพย์ยา สุดท้ายต้องออกเร่ร่อนไปทั่วกรุงลอนดอน คอยดีดกีตาร์ร้องเพลงหาเงินประทังชีวิต ซึ่งชีวิตก็วนลูปในวังวนแย่ๆ อย่างไม่จบสิ้น ทั้งจากสภาพแวดล้อมด้วย และสภาพจิตใจของเจมส์เองด้วย
  1. การที่เจมส์ช่วยชีวิตบ๊อบ และรับบ๊อบเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ก็เป็นการช่วยชีวิตเจมส์ไว้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยให้มีคนสนใจเจมส์มากขึ้นเวลาไปเปิดหมวกเล่นดนตรีที่ตลาด Covent Garden รวมทั้งยังช่วยคลายล็อกในใจของเจมส์หลายอย่าง ให้พร้อมจะแชร์ความรู้สึกและเชื่อใจผู้อื่นอีกครั้ง รวมถึงกล้าที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อปกป้องสิ่งที่รัก
  1. อดคิดไม่ได้ว่าโลกที่แท้จริงนี่มันโหดร้ายจังนะ ตัดสินคนที่ภายนอก ดูถูกคนที่ก้าวพลั้งพลาด และก็แทบไม่มีใครอยากยื่นมือช่วยเหลือผู้คนเหล่านั้นเลย หรือมนุษย์เรานั้นไม่เชื่อใจผู้อื่นเพียงพอที่จะมอบโอกาสครั้งที่สองให้กับผู้อื่น
  1. เจมส์เห็นคุณค่าของตัวเองมาโดยตลอด (สังเกตได้จากเนื้อเพลงที่เขาร้อง) และตะเกียกตะกายปีนขึ้นจากหลุมดำที่เคยพลัดตกลงไป แต่ก็ไม่มีใครเชื่อเลยว่าเขาสามารถกลับตัวได้ ฮีโร่ของหนังเรื่องนี้(และในชีวิตจริงของเจมส์) คงหนีไม่พ้น วาล (Val) เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือด้านการบำบัดยาเสพติด ที่ไฝว้สุดตัวเพื่อให้โอกาสเจมส์ได้มีที่พักเป็นหลักแหล่ง เพื่อที่จะได้เลิกยาก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป รวมถึง เบ็ตตี้ สาวข้างบ้านที่เขาได้แลกเปลี่ยนมุมมองและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่กัน นอกจากนั้นต้องไม่ลืม บ๊อบ แมวเหมียวด้วยเช่นกัน ที่เป็นกำลังใจชั้นดีให้แก่เจมส์และคอยอยู่เคียงข้างเขาตลอด
  1. แต่สุดท้ายแล้วคนที่สำคัญที่สุดก็คือตัวเราเอง เพราะถ้าหากเราได้รับสารพัดโอกาส ได้กำลังใจจากคนรอบข้าง แต่เรากลับไม่รักตัวเอง ยังเลือกที่จะทำตัวเหลวแหลก ไม่ปรับปรุงพัฒนา ก็คงไม่มีใครจะช่วยทำให้ชีวิตเราดีขึ้นได้ หรืออยากมอบโอกาสให้เราอีกแล้ว  
  1. บทพ่อเจมส์นี่จะมองให้ซึ้งก็ซึ้งนะ แต่เราก็รู้สึกว่าเป็น loser อยู่ดี ซึ่งโอเค สุดท้ายแล้วคนเราพลาดกันได้ และเจมส์ก็ให้อภัยพ่อ ให้อภัยตัวเอง … เออ เป็นคนดีจังเนอะ
  1. อาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่เราได้พบหรือต้องลาจากกับใครหรือสิ่งใด ไม่ว่าจะแค่ชั่วคราวหรือถาวร ก็คงมีเหตุผลของมันอยู่ ซึ่งตอนนี้เรายังไม่รู้ก็แค่นั้น
  1. สรุปคือสิ่งที่ช่วยพยุงหนังไว้ได้เยอะคือความน่ารักของบ๊อบ (และเหล่าแสตนด์อินอีก 7 ตัว) ซึ่งแค่จิกกล้องมองแรงเฉยๆ เหล่าทาสแมวก็กรี๊ดแล้วค่ะ ยิ่งฉากหนูบ๊อบแบ๊วใส ออดอ้อนนี่ เอาไปเลยค่ะ รางวัลออสการ์ สาขาแมวแสดงนำยอดเยี่ยมปีนี้! ให้หนัง 3 ดาว แต่ขอให้คะแนนน้องบ๊อบ 5 ดาวเลยค่ะ!!! #ลำเอียงกว่านี้มีอีกมั้ย #นี่จะไม่พูดถึงนักแสดงผู้กำกับทีมงานฝ่ายแสงฝ่ายฉากฝ่ายฝึกแมวเลยเหรอคะ!?

 

แก้วตา
20.12.16

A Street Cat Named Bob (2016)