ตึกคุณหญิงหรี่ (2017)

 

ตึกคุณหญิงหรี่ (2017)
กำกับโดย จตุรชัย ศรีจันทร์วันเพ็ญ
★★★☆☆

 

“For you and me to start over, the entire universe would have to begin again.”
(หากเธอกับฉันจะเริ่มต้นใหม่ ทั้งจักรวาลคงต้องถือกำเนิดขึ้นมาอีกครา)

 

นี่คือประโยคที่คาริพูดกับปีเตอร์ เมื่อทั้งคู่ได้หวนกลับมาพบกันอีกครั้งในงานเลี้ยงรุ่น หลังจากเมื่อ 20 ปีก่อน ปีเตอร์ได้ทำคาริท้องและหนีไปอยู่เมืองอื่น จนเธอต้องตัดสินใจทำแท้ง ซึ่งปีเตอร์ตั้งใจจะแก้ตัวและสานสัมพันธ์ใหม่ในการเจอกันครั้งนี้ แต่คาริกลับแต่งงานกับคนอื่นไปเสียแล้ว

 

“ตึกคุณหญิงหรี่” จึงสร้างเรื่องราวในจักรวาลที่แตกต่างจาก “The Pavillion” บทละครที่แต่งโดย Craig Wright ในปี 2001 โดยมีวิภาและสมยศมาสะท้อนภาพที่อาจเกิดขึ้นเมื่อจักรวาลถือกำเนิดใหม่ ซึ่งคาริและปีเตอร์ได้โอกาสเริ่มต้นอีกครั้ง

 

แม้เรื่องราวดูจะเกี่ยวกับความสัมพันธ์เพียงอย่างเดียว แต่ตัวบทดั้งเดิมและ “ตึกคุณหญิงหรี่” เองได้ตั้งคำถามชวนคิดเกี่ยวกับการใช้เวลาในชีวิตของมนุษย์ การตัดสินใจ ทางเลือก โดยเปรียบเปรยกับการกำเนิดจักรวาลที่มีแต่จะเดินหน้าต่อไป ไม่สามารถถอยหลังกลับมาแก้ไขอะไรได้อีก ซึ่งไม่ว่าเราจะทำอะไรในปัจจุบันย่อมส่งผลต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

หลายชีวิตที่ย้อนกลับมาพบกันที่ตึกคุณหญิงหรี่หลังจากเรียนจบไป 20 ปี ได้ทำให้เรียนรู้ว่าแต่ละคนต่างมีเรื่องราวเป็นของตนเอง ไม่ว่าภายนอกจะดูดีแค่ไหน แต่ก็แฝงไว้ด้วยความทุกข์ สุข ไม่ต่างกัน และแม้ว่าตึกคุณหญิงหรี่จะถูกทำลายลง แต่ทุกชีวิตที่เคยข้องเกี่ยวกับตึกนั้นก็ต้องดำเนินต่อไปตามเส้นทางที่เลือกเดิน ไม่ต่างอะไรกับดาวบนฟ้าที่ถือกำเนิดขึ้นมา เรียงร้อยกันเป็นหมู่ดาวต่างๆ แต่ทั้งหมดล้วนต้องแตกดับไปสักวัน เหลือไว้เพียงแต่จักรวาลที่ยังคงหมุนวนต่อไปพร้อมรับวัฏจักรใหม่อย่างไม่สิ้นสุด

 

Credit: Democrazy Theatre Studio

 

การแสดงทำออกมาได้น่ารัก โดยเฉพาะการสวมบทบาทวิภาและสมยศของคู่ขวัญอย่าง อิ๋ว-ปานรัตน กริชชาญชัย และหวัด-ศุภสวัสดิ์ บุรณเวช ที่เข้ากันได้ดี แถมจังหวะรับส่งมุกยังคงเนียนและแพรวพราวเช่นเคย แต่พอถึงบทจะซึ้งก็ทำได้ดีเช่นกัน รวมถึงการแสดงของญาดามิณ แจ่มสุกใส ที่ต้องมีสมาธิดีมาก ซึ่งเธอก็ทำได้ดีและมีเสน่ห์มากมาย ส่วนวิศรุต หิมรัตน์ ก็เล่นได้สมบทบาท เล่นดนตรีได้ ร้องเพลงได้ ประทับใจตอนร้องเพลงประสานที่ช่วยเสริมให้ท่อนนั้นเพราะจริงๆ

 

การออกแบบและจัดการพื้นที่แสดงทำได้น่าสนใจ เพราะนอกจากผู้ชมจะได้นั่งล้อมรอบนักแสดงทั้งสี่ทิศและ ผู้แสดงเองมีปฏิสัมพันธ์กับพื้นที่รอบด้านอยู่ตลอด แม้จะไม่ใช่ช่วงที่มีสปอตไลท์ส่อง ซึ่งทำให้เห็นว่าชีวิตทุกคนบนโลกนี้ต่างต้องดำเนินต่อไป ไม่มีหยุด แม้ว่าเราอาจไม่เห็นมุมนั้นของแต่ละคนก็ตาม สอดคล้องกับที่วิภาได้พูดตัดพ้อว่าทำไมชีวิตจริงไม่มีพักครึ่งเหมือนในละคร ทำไมเราถึงไม่มีจังหวะได้พักผ่อนจากบทบาท ความรับผิดชอบต่างๆ ในชีวิตจริงที่แสนจะหนักหน่วงและเหนื่อยล้า

 

แต่ความหม่นหมองนี้ก็ถูกทำให้สมดุลย์ไว้ด้วยแนวคิดของสมยศ ที่พยายามปรับตัวเข้ากับปัจจุบันให้ดีที่สุด แม้การที่ต้องมีลูกตั้งแต่อายุ 17 และต้องมารับช่วงต่อกิจการของครอบครัว อาจไม่ได้ทำให้เขามีความสุขเต็มร้อย แต่สมยศก็ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นและพยายามทำแต่วันให้เป็นวันที่ดีสำหรับเขาและคนรอบข้าง ซึ่งความจริงแล้วตัววิภาเองถึงแม้จะตั้งคำถามกับการตัดสินใจครั้งสำคัญในอดีต แต่เธอก็พยายามสานฝันของตัวเองเช่นกัน และดูจะมีชีวิตคู่ที่ดีกับคนที่รักเธออย่างแท้จริง ซึ่งคาริไม่สามารถมีได้ในจักรวาลของเธอ

 

สำหรับเรา “ตึกคุณหญิงหรี่” จึงเป็นการแสดงที่ฟีลกู้ด ดูเพลินและชวนติดตามตลอดทั้งเรื่อง แถมยังมีเพลงประกอบที่ช่วยถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดของตัวละครได้เป็นอย่างดี ซึ่งผู้ชมน่าจะเชื่อมโยงสิ่งที่เห็นในละครเข้ากับประสบการณ์ชีวิตของแต่ละคนได้ไม่ยาก (ชื่อตึกและชื่อโรงเรียนในเรื่องน่าจะทำให้ศิษย์เก่าบางโรงเรียนคุ้นหูทีเดียว)

 

การแสดงเริ่มเวลา 20.00 น. ของทุกวัน ยกเว้นวันอังคารและวันพุธ โดยวันอาทิตย์จะมีแค่รอบ 15.00 น. จนถึงวันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ ที่ Democrazy ถนนพระราม 4 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เพจ Democrazy Theatre Studio

 

แก้วตา
11.02.17

 

Credit: Democrazy Theatre Studio
Credit: Democrazy Theatre Studio