ความเป็นธรรมที่ล่าช้าก็คือความอยุติธรรม

 

“ความเป็นธรรมที่ล่าช้าก็คือความอยุติธรรม”

 

ภาษิตกฎหมายที่เหมือนจะเข้าใจยาก แต่เรากลับเข้าใจได้เป็นอย่างดีในวันนี้เมื่อได้ไปเยือนทัณฑสถานหญิงกลางเป็นครั้งแรก

 

สองปีก่อนชื่อของ กอล์ฟ – ภรณ์ทิพย์ มั่นคง จากกลุ่มละครประกายไฟ ปรากฏตามสื่อในฐานะผู้ต้องหาคดี 112 หลังร่วมแสดงละครเวทีนักศึกษาเรื่อง “เจ้าสาวหมาป่า” ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในวาระรำลึก 40 ปี 14 ตุลา จนทำให้เธอต้องจำคุกเป็นเวลา 2 ปี 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2557 โดยตามกำหนดกอล์ฟจะได้รับอิสรภาพในวันที่ 6 ตุลาคมนี้

 

การที่ แบงค์ – ปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม ซึ่งถูกคุมขังในคดีเดียวกันได้รับการอภัยโทษและถูกปล่อยตัวพร้อมกับอดีตนักโทษชายจำนวนหนึ่งจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครในช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้จุดประกายความหวังให้กับครอบครัวและคนรักของกอล์ฟว่าอาจจะได้ต้อนรับเธอกลับบ้านเร็วกว่าที่คิด

 

ทัณฑสถานหญิงกลางจึงเป็นศูนย์รวมความหวังของคนที่รอมาตั้งแต่นั้น แฟนกอล์ฟสละเวลาจากงานประจำมานั่งคอย พ่อแม่กอล์ฟที่เป็นชาวไร่นั่งรถทัวร์จากพิษณุโลกมาพักกับญาติในเมืองหลวง เพื่อมาเฝ้ารอรับลูกสาว แต่ละวันต้องเสียค่าแท็กซี่เที่ยวละ 300 บาท และใช้เวลารอไม่ต่ำกว่า 7 ชั่วโมง เฝ้ามองประตูว่ากอล์ฟจะเดินออกมาเมื่อใด แต่การรอคอยตลอดสัปดาห์นี้ก็ดูจะสูญเปล่า เพราะไม่มีวี่แววที่จะปล่อยตัวนักโทษคนไหน แถมยังไม่มีข้อมูลที่แน่นอนใดๆ จากทางการที่จะระบุได้ว่าผู้ที่ได้รับการอภัยโทษจะได้อิสรภาพกลับคืนเมื่อใด

 

“กอล์ฟตอนแรกก็ไม่ซีเรียสเรื่องอภัยโทษ แต่พอมีกระแสญาติมารอก็มีความหวัง เลยทำให้เวลามันเหมือนจะยาวนานขึ้น ลุ้นว่าจะออกหรือยัง ทำให้วิตกกังวล” แฟนกอล์ฟเล่าให้เราฟัง พร้อมบอกว่าการเฝ้ารออย่างไร้ความหวังในช่วงหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมานั้นทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่ารอมานานแรมเดือน “วิธีการนี้ไม่โอเคกับผู้ต้องหา เป็นการลงทัณฑ์แบบโหดร้ายซ้ำการลงทัณฑ์ เหมือนที่เขาว่าไว้ ความเป็นธรรมที่ล่าช้าก็คือความอยุติธรรม”

 

หลังจากได้พบลูกสาวในตอนเช้า แม่ของกอล์ฟบอกว่า กอล์ฟอยากให้พ่อแม่กลับบ้านไปก่อน ถ้าเธอไม่มีโอกาสออกวันนี้ เพราะกังวลเรื่องการเดินทางในเมืองหลวงที่ทั้งคู่ไม่คุ้นชิน รวมถึงสถานการณ์ภายในก็ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการปล่อยตัว ซึ่งหลังจากวันนี้ พ่อของกอล์ฟก็จะเดินทางกลับพิษณุโลกเพื่อทำงาน ด้านแม่กอล์ฟก็ตั้งใจจะรอรับลูกสาวที่กรุงเทพฯ ต่อไป แต่จะปิดไว้เป็นความลับ เพราะไม่อยากให้กอล์ฟต้องเป็นห่วง

 

“สองปีก็นานนะสำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ พอรู้ว่าลูกจะได้ออกก็ดีใจ แต่เป็นแบบนี้ก็เสียความรู้สึก” แม่กอล์ฟพูดขึ้นมาอย่างเศร้าๆ

 

เกือบ 6 ชั่วโมงที่เราไปร่วมนั่งลุ้นและให้กำลังใจท่ามกลางสภาพอากาศร้อนอ้าวสลับฝนตก ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่าครอบครัว คนรัก และเพื่อนๆ กอล์ฟอดทนรอตรงนี้ทั้งวันและทุกวันได้อย่างไร หากไม่ใช่เพราะความรักและความหวัง

 

กอล์ฟไม่ใช่คนเดียวที่มีญาติมารอรับ เพราะหลังจากมีข่าวการอภัยโทษนักโทษชาย ความหวังที่จะได้พาคนรักกลับบ้าน คืนสู่อิสรภาพ ก็กลับมาในใจของอีกหลายครอบครัว มีคุณลุงคนหนึ่งเดินทางมาจากน่านเพื่อรอรับลูกสาว ต้องไปนอนวัด เดินทางวันนึงหลายกิโลเมตร เสียเงินหลายร้อย แต่รอมาจนครบอาทิตย์ก็ยังไม่มีหวัง เลยต้องจำใจกลับบ้านเพราะตอนนี้น้ำท่วม เรื่องเล่ามากมายจากหลายครอบครัวที่ได้ยินระหว่างรอทำให้เห็นเรื่องราวที่แต่ละคนต้องพบเจอ ซึ่งทั้งหมดเชื่อมโยงกันด้วยความหวังที่อยากจะกลับบ้านพร้อมคนรักที่พลัดพรากไปนาน แต่จะเมื่อใดก็ไม่มีใครรู้ แม้แต่คนที่ทำงานเกี่ยวข้องโดยตรงซึ่งกุมชะตาชีวิตพวกเธอไว้อยู่ก็ตาม

 

แก้วตา
19.08.16